Learning Log out classroom:
สัปดาห์ที่ 9
เคล็ดลับการฟังภาษาอังกฤษให้เข้าใจเหมือนเจ้าของภาษา
ทุกวันนี้หลายคนเมื่อดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษแล้วจะเข้าใจดี
แต่เมื่อเวาฟังเจ้าของภาษาพูดแล้วกลับไม่ค่อยเข้าใจหรือไม่แทบฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย
ปัญหาในการฟังของเราส่วนใหญ่นั้นเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น
สำเนียงที่แตกต่างกัน
ก็อาจทำให้ฟังเจ้าของภาษาหรือคนอื่นที่พูดภาษาอังกฤษไม่เข้าใจ
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วตอนที่เราเรียนภาษาอังกฤษ
เราก็มักเจอสำเนียงของอาจารย์ที่เป็นคนไทย ฟิลิปปินส์ สำเนียงอาจารย์อังกฤษหรืออเมริกัน
หรืออื่น ๆ อาจจะเป็นสำเนียงจากเทปวิดีโอ
นั่นทำให้หลาย ๆ
คนคุ้นเคยกับสำเนียงที่แตกต่างกันออกไป แต่ในชีวิตจริง ๆ ของเราแล้ว
เราไม่เลยว่าจะต้องเจอกับคนที่พูดภาษาอังกฤษสำเนียงไหน สำเนียงอังกฤษแบบเมืองไหน
สำเนียงอเมริกันแบบรัฐไหน หรือสำเนียงของประเทศอื่น ๆ
และเมื่อเราเจอสำเนียงที่ไม่คุ้นเคยก็อาจทำให้เราฟังบางคำไม่เข้าใจหรือฟังไม่เข้าใจทั้งประโยคเลย
ทั้งที่ความจริงแล้วเราอาจจะเคยชินหรือได้ยินคำนั้นมาก่อนแล้ว
และบางครั้งการที่ฟังภาษาอังกฤษไม่เข้าใจนั้น
ก็อาจจะมาจากการที่เราคุ้นเคยหรือได้ยินคำภาษาอังกฤษในรูปแบบใดแบบหนึ่ง
อาจเป็นแบบอังกฤษหรือแบบอเมริกันเข้าบ่อย ๆ เช่น
ถ้าเราภนัดแต่ใช้คำที่เป็นอเมริกัน
เมื่อเราฟังคนที่พูดภาษาอังกฤษโดยใช้คำที่เป็นแบบอังกฤษ
เราก็อาจสับสนและไม่เข้าใจได้
อีกทั้งการเชื่อมคำที่สร้างความสับสนและทำให้ไม่เข้าใจประโยคที่ฟัง เพราะในห้องเรียนเราฟังภาษาอังกฤษแบบทีละคำในประโยค
แต่เมื่อเจอสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่ต้องฟังหรือใช้ภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง
เราก็มักเกิดความสับสนและฟังประโยคภาษาอังกฤษที่ผู้พูดสื่อสารมาไม่เข้าใจ
ตลอดจนการใช้คำแสลงที่เรามักไม่คุ้นเคย และการพูดภาษาอังกฤษที่ผิดหลักไวยากรณ์ก็อาจสร้างความสับสนให้กับผู้ฟังได้เช่นกัน
วิธีแก้ไขการฟังภาษาอังกฤษให้เข้าใจขึ้นนั้นเราอาจทำได้โดย
เช่น ฟังหลากหลายหัวข้อมากขึ้น
เพื่อเป็นการเตรียมตัวเมื่อผู้พูดที่เราจะสนทนาด้วยเกิดสนทนาเรื่องที่เราไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยได้เรียนในห้องเรียน
ดังนั้น ควรหาคลิปที่มีบทสนทนาจากหลาย ๆ หัวข้อ ตามสถานการณ์หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ
เพื่อให้เรารู้จักคำศัพท์และบริบทที่หลากหลายมากขึ้นด้วย ฟังเพลงหลาย ๆ
สำเนียงพร้อมกับฝึกออกเสียงตามที่ได้ยินไปด้วย อาจมีทรานสคริปส์ประกอบการฝึก
ซึ่งจะต้องออกเสียงตามต้นฉบับเพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับความแตกต่างของแต่ละสำเนียงให้มากขึ้น
นอกจากนี้ผู้เรียนจะต้องสังเกตการณ์เน้นเสียงในประโยคด้วย
เพราะเป็นการลงเสียงหนักเบาในประโยคนั้น ๆ
ซึ่งจะทำให้เราฟังภาษาอังกฤษได้อย่างเข้าจากยิ่งขึ้น
และคนอื่นก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารออกไป ผู้เรียนจะต้องศึกษาเรื่องสำนวนสุภาษิต
คำพังเพยต่าง ๆ ของชาวตะวันตกหรือของเจ้าของภาษา
เพื่อการใช้ภาษาที่หลากหลายและทำให้เราเองก็เขาใจวัฒนธรรมของภาษามากขึ้นด้วย
ต่อมาลองปิดทรานสคริปส์และพยายามเขียนสิ่งที่ได้จากการฟังออกมาให้ครบถ้วนมากที่สุด
เพื่อแสดงว่าเราสามารถจับใจความหรือเนื้อหาสาระสำคัญจากสิ่งที่ฟังได้อย่างครบถ้วน
ผู้เขียนขอแนะนำว่า ผู้เรียนจะต้องฝึกฝนการฟังตั้งแต่การฟังที่ง่าย ๆ ก่อน
แล้วจึงค่อยมีความยากขึ้นตามลำดับ
เพื่อให้เหมาะสมกับพัฒนาการของทักษะและไม่สร้างอาการเบื่อหน่ายต่อการฝึกฝนอีกด้วย
การฝึกฝนทักษะเพื่อให้มีความเชี่ยวชาญและคล่องแคล่วนั้น
เราจะต้องหมั่นฝึกฝน มีความอดทนและมีวินัยในการฝึกฝน
นอกจากนี้จะต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ โดยเริ่มจากทีละน้อย ๆ หรือง่าย ๆ ก่อน
แล้วจึงเริ่มหนักหรือยากขึ้นตามระดับหรือตามความสามารถของเรา
เพราะทักษะนั้นคือการฝึก ฝึกซ้ำ ๆ จนเกิดความเคยชินและคุ้นเคยจนสามารถพัฒนาทักษะนั้น
ๆ ให้เชี่ยวชาญและคล่องแคล่ว
สามารถพูดหรือสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจและถูกต้อง
ซึ่งผู้เรียนจะต้องหมั่นฝึกฝนและมีความตั้งใจในการฝึกฝน
เพื่อเป็นบุคคลหนึ่งที่สื่อสารหรือใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับเคล็ดลับดังกล่าวผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเป็นแนวทางและวิธีในการฝึกฝนทักษะการฟังของผู้เรียนหรือผู้ที่สนใจได้เป็นอย่างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น