.

.

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log: สัปดาห์ที่ 9

Learning Log out classroom: สัปดาห์ที่ 9

เคล็ดลับการฟังภาษาอังกฤษให้เข้าใจเหมือนเจ้าของภาษา

            ทุกวันนี้หลายคนเมื่อดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษแล้วจะเข้าใจดี แต่เมื่อเวาฟังเจ้าของภาษาพูดแล้วกลับไม่ค่อยเข้าใจหรือไม่แทบฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย ปัญหาในการฟังของเราส่วนใหญ่นั้นเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น สำเนียงที่แตกต่างกัน ก็อาจทำให้ฟังเจ้าของภาษาหรือคนอื่นที่พูดภาษาอังกฤษไม่เข้าใจ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วตอนที่เราเรียนภาษาอังกฤษ เราก็มักเจอสำเนียงของอาจารย์ที่เป็นคนไทย ฟิลิปปินส์ สำเนียงอาจารย์อังกฤษหรืออเมริกัน หรืออื่น ๆ อาจจะเป็นสำเนียงจากเทปวิดีโอ
นั่นทำให้หลาย ๆ คนคุ้นเคยกับสำเนียงที่แตกต่างกันออกไป แต่ในชีวิตจริง ๆ ของเราแล้ว เราไม่เลยว่าจะต้องเจอกับคนที่พูดภาษาอังกฤษสำเนียงไหน สำเนียงอังกฤษแบบเมืองไหน สำเนียงอเมริกันแบบรัฐไหน หรือสำเนียงของประเทศอื่น ๆ และเมื่อเราเจอสำเนียงที่ไม่คุ้นเคยก็อาจทำให้เราฟังบางคำไม่เข้าใจหรือฟังไม่เข้าใจทั้งประโยคเลย ทั้งที่ความจริงแล้วเราอาจจะเคยชินหรือได้ยินคำนั้นมาก่อนแล้ว และบางครั้งการที่ฟังภาษาอังกฤษไม่เข้าใจนั้น ก็อาจจะมาจากการที่เราคุ้นเคยหรือได้ยินคำภาษาอังกฤษในรูปแบบใดแบบหนึ่ง อาจเป็นแบบอังกฤษหรือแบบอเมริกันเข้าบ่อย ๆ เช่น ถ้าเราภนัดแต่ใช้คำที่เป็นอเมริกัน เมื่อเราฟังคนที่พูดภาษาอังกฤษโดยใช้คำที่เป็นแบบอังกฤษ เราก็อาจสับสนและไม่เข้าใจได้ อีกทั้งการเชื่อมคำที่สร้างความสับสนและทำให้ไม่เข้าใจประโยคที่ฟัง เพราะในห้องเรียนเราฟังภาษาอังกฤษแบบทีละคำในประโยค แต่เมื่อเจอสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่ต้องฟังหรือใช้ภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง เราก็มักเกิดความสับสนและฟังประโยคภาษาอังกฤษที่ผู้พูดสื่อสารมาไม่เข้าใจ ตลอดจนการใช้คำแสลงที่เรามักไม่คุ้นเคย และการพูดภาษาอังกฤษที่ผิดหลักไวยากรณ์ก็อาจสร้างความสับสนให้กับผู้ฟังได้เช่นกัน
            วิธีแก้ไขการฟังภาษาอังกฤษให้เข้าใจขึ้นนั้นเราอาจทำได้โดย เช่น ฟังหลากหลายหัวข้อมากขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมตัวเมื่อผู้พูดที่เราจะสนทนาด้วยเกิดสนทนาเรื่องที่เราไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยได้เรียนในห้องเรียน ดังนั้น ควรหาคลิปที่มีบทสนทนาจากหลาย ๆ หัวข้อ ตามสถานการณ์หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เรารู้จักคำศัพท์และบริบทที่หลากหลายมากขึ้นด้วย ฟังเพลงหลาย ๆ สำเนียงพร้อมกับฝึกออกเสียงตามที่ได้ยินไปด้วย อาจมีทรานสคริปส์ประกอบการฝึก ซึ่งจะต้องออกเสียงตามต้นฉบับเพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับความแตกต่างของแต่ละสำเนียงให้มากขึ้น นอกจากนี้ผู้เรียนจะต้องสังเกตการณ์เน้นเสียงในประโยคด้วย เพราะเป็นการลงเสียงหนักเบาในประโยคนั้น ๆ ซึ่งจะทำให้เราฟังภาษาอังกฤษได้อย่างเข้าจากยิ่งขึ้น และคนอื่นก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารออกไป ผู้เรียนจะต้องศึกษาเรื่องสำนวนสุภาษิต คำพังเพยต่าง ๆ ของชาวตะวันตกหรือของเจ้าของภาษา เพื่อการใช้ภาษาที่หลากหลายและทำให้เราเองก็เขาใจวัฒนธรรมของภาษามากขึ้นด้วย ต่อมาลองปิดทรานสคริปส์และพยายามเขียนสิ่งที่ได้จากการฟังออกมาให้ครบถ้วนมากที่สุด เพื่อแสดงว่าเราสามารถจับใจความหรือเนื้อหาสาระสำคัญจากสิ่งที่ฟังได้อย่างครบถ้วน ผู้เขียนขอแนะนำว่า ผู้เรียนจะต้องฝึกฝนการฟังตั้งแต่การฟังที่ง่าย ๆ ก่อน แล้วจึงค่อยมีความยากขึ้นตามลำดับ เพื่อให้เหมาะสมกับพัฒนาการของทักษะและไม่สร้างอาการเบื่อหน่ายต่อการฝึกฝนอีกด้วย
            การฝึกฝนทักษะเพื่อให้มีความเชี่ยวชาญและคล่องแคล่วนั้น เราจะต้องหมั่นฝึกฝน มีความอดทนและมีวินัยในการฝึกฝน นอกจากนี้จะต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ โดยเริ่มจากทีละน้อย ๆ หรือง่าย ๆ ก่อน แล้วจึงเริ่มหนักหรือยากขึ้นตามระดับหรือตามความสามารถของเรา เพราะทักษะนั้นคือการฝึก ฝึกซ้ำ ๆ จนเกิดความเคยชินและคุ้นเคยจนสามารถพัฒนาทักษะนั้น ๆ ให้เชี่ยวชาญและคล่องแคล่ว สามารถพูดหรือสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจและถูกต้อง ซึ่งผู้เรียนจะต้องหมั่นฝึกฝนและมีความตั้งใจในการฝึกฝน เพื่อเป็นบุคคลหนึ่งที่สื่อสารหรือใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับเคล็ดลับดังกล่าวผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเป็นแนวทางและวิธีในการฝึกฝนทักษะการฟังของผู้เรียนหรือผู้ที่สนใจได้เป็นอย่างดี 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

.

.